วุ้นกะทิ

วันเสาร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2553


ส่วนผสมของตัววุ้น
น้ำสะอาด 2, ½ ถ้วย
ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ + 2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 ถ้วย(เพิ่มหรือลดได้ตามต้องการค่ะ)

ส่วนผสมของหน้าวุ้นกะทิ
กะทิแบบข้นๆ 2, ½ ถ้วย(แพทใช้กะทิกระป๋องค่ะ)
ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ + 2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย ½ ถ้วย(เพิ่มหรือลดได้ตามต้องการ)
เกลือ ½ ช้อนชา(เพิ่มเติมได้ค่ะ)

วิธีทำตัววุ้น
1. ตวงน้ำใส่ลงในหม้อ ใส่ผงวุ้นและคนให้เข้ากันก่อนแล้วค่อยนำไปตั้งไฟ คนบ่อยๆ อย่าหยุด พอเดือดก็ใส่น้ำตาลทราย คนจนน้ำตาลละลายและปล่อยให้เดือดอีกครั้ง ยกออกจากเตา
แพทจะเตรียมส่วนของกะทิไว้พร้อมๆ กันเลยค่ะ เพื่อความรวดเร็ว และเป็นการประหยัดไฟด้วย


2. เทวุ้นที่เคี่ยวได้ลงในถาดขนาด 8x8 นิ้ว หรือกะดูให้ได้ระดับครึ่งหนึ่งของถาด หรือประมาณ ¾ ของถาดก็ได้ค่ะ และพยายายามไล่ฟองอากาศออกให้หมด
3. เสร็จแล้วรีบทำหน้ากะทิเลยนะคะ โดยใส่กะทิลงในหม้อ ใส่ผงวุ้นและคนให้เข้ากันก่อน แล้วค่อยยกขึ้นตั้งไฟ คนบ่อยๆ อย่าหยุด พอเดือดก็ใส่น้ำตาลทราย และเกลือ พอเดือดอีกครั้งก็ยกออกจากเตา(ต้องให้น้ำตาลละลายให้หมดนะคะ)
4. เทหน้ากะทิลงในตัววุ้น ถ้ามีฟองอากาศก็ใช้พายยางหรือช้อนจิ้มๆ ให้มันหายไปให้หมดนะคะ เสร็จแล้วก็รอให้อุ่นๆ แล้วค่อยนำไปแช่ตู้เย็นจนกว่าวุ้นจะแข็งตัวค่ะ

ดูภาพประกอบค่ะ



ข้อแนะนำ

*** แพทใช้มะพร้าวกะป๋อง รู้สึกว่ามันจะเป็นเม็ดๆ ตอนที่เทลงในวุ้น แพทใช้ตะแกรงกรองเอาส่วนที่เป็นเม็ดๆ ออก ถ้าใช้กะทิสดๆ คงไม่มีปัญหาแบบนี้มังคะ

*** ถ้าจะใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนก็ใส่ได้นะคะ พอน้ำตาลทรายและเกลือละลาย ก็ใส่มะพร้าวอ่อนลงไปในส่วนกะทิเลยค่ะ

*** มีบางคนสงสัยว่า ทำใมเวลาทำวุ้นกะทิแล้วตัววุ้นกับกะทิมันแยกกันเป็นชั้นใครชั้นมัน อันนี้เป็นเพราะเขารอให้ตัววุ้นเย็นสนิทแล้วจึงเทหน้ากะทิลงไป การทำแบบนี้วุ้นจะแยกเป็นชั้นใครชั้นมันไม่เกาะกันค่ะ

*** วิธีที่แพททำมาตลอดคือ พอเทตัววุ้นลงในถาด อย่ารอให้วุ้นเย็นหรืออย่ารอให้วุ้น set ตัวเด็ดขาดค่ะ(ขอย้ำว่าอย่ารอให้วุ้นเย็นหรือเซ็ตตัวเป็นอันขาด) ให้รีบทำส่วนหน้ากะทิทันที เสร็จแล้วก็เทลงไปเลย รับรองว่าส่วนกะทิมันจะแยกตัวขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติและแบ่งเป็นชั้นอย่างสวยงามค่ะ ไม่ต้องกลัวว่ามันจะผสมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน(เคล็ดลับอันนี้ได้มาจากผู้ใหญ่แถวบ้านค่ะ)

  ดูเนื้อวุ้นแบบใกล้ๆ จะเห็นว่าวุ้นแยกชั้นได้อย่างสวยงามและชัดเจน


*** เรื่องความหนา หรือบางของวุ้นนั้น อันนี้แล้วแต่ความชอบส่วนตัวของแต่ละคนนะคะ บางคนชอบตัววุ้นบางๆ และใส่หน้ากะทิหนาๆ สำหรับแพท แพทชอบแบบหน้าครึ่งหนึ่ง ตัวครึ่งหนึ่งค่ะ ใครชอบแบบไหนก็สามารถดัดแปลงได้ค่ะ

*** ถ้าไม่อยากเทใส่ถาด จะเทใส่พิมพ์สวยๆ แบบนี้ก็ได้ พิมพ์พวกนี้แพทหอบหิ้วมาจากเมืองไทย เสียดายที่ซื้อมาน้อยไปหน่อยค่ะ กลับไปคราวหน้าจะซื้อมาอีก

เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย แพทจะลองถาดฟอยด้วยถาดกระเบื้องอีกทีหนึ่งค่ะ หรือจะใช้จานใหญ่ๆ ลองก็ได้นะคะ


แพทใช้มะพร้าวกระป๋องแบบในรูปซ้ายมือนะคะ แบบนี้จะเหมาะกับการทำขนมค่ะ(Coconut Cream) ส่วนกระป๋องทางด้านขวามือ เอาไว้ใช้ทำอาหารค่ะ(Coconut Milk)


ถาดนี้ไม่ได้ตัดให้ดูนะคะ เพราะอยากให้เพื่อนไปตัดเองมากกว่าค่ะ



ชุดนี้ใช้พิมพ์ก็สวยไปอีกแบบ

ลูกชุบ

วันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2553

ส่วนผสมของถั่ว

- ถั่วเขียวปอกเปลือก 250 กรัม (แช่น้ำไว้สัก 2 ชั่วโมง)

- กะทิ 1 กล่อง

- น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย

- เกลือ 1/4 ชช

วิธีทำ

- นำถั่วเขียวไปต้มจนเปื่อย แล้วนำถั่วมาบดให้ละเอียด

- ผสมกะทิ น้ำตาลทราย เกลือ แล้วนำไปตั้งไฟ กวนจนมีลักษณะเหนียวๆ ปั้นได้ไม่แตก


 
  - กวนจนได้ลักษณะเช่นนี้เลยนะค่ะ ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีได้ค่ะ


- รอให้รู้สึกว่าอุ่น ๆ แล้วก็นำมาปั้นตามชอบเลยนะค่ะ



- ใกล้ ๆ หน่อยนะค่ะ



- เสร็จแล้วก็นำ สีผสมอาหารมาผสมน้ำแล้วก็ทาสีได้เลยค่ะ


ส่วนผสมของวุ้น

- วุ้น 1 ชต.

- น้ำเปล่า 1 ถ.

- น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย


- นำมาผสมให้เข้ากันแล้วก็ตั้งไฟ จนวุ้นละลายหมดยกลงค่ะ


- เมื่อทาสีแห้งแล้ว ก็นำมาจุ่มส่วนผสมของวุ้นนะค่ะ ทำสัก 4 รอบจนขึ้นเงาสวยงามค่ะ


 
-นำใบแก้วมาตกแต่งให้สวยงาม


 
  - ขอจบด้วยพริกอวบๆ นะค่ะ


 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

ข้าวเม่าคลุก

ส่วนผสม
                                                           
  เม่าใหม่ 2 ถ้วยตวง
  มะพร้าวขูด 1 ถ้วยตวง
  น้ำตาลราย 1/2 ถ้วยตวง
 เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
 ใบเตย 4 ใบ
    น้ำเดือด 3/4 ถ้วยตวง (น้ำลอยดอกมะลิ)

วิธีทำ

 นำข้าวเม่ามาเลือกกากและผงออกให้หมด ใส่ลงไปในอ่างหรือภาชนะ
 ที่เตรียมเอาไว้ ต้มน้ำลอยดอกมะลิให้เดือดใส่เกลือป่น แล้วเคล้าให้ทั่ว
(ป.ล.ถ้าใช้ข้าวเม่าแบบขา แนะนำให้ต้มน้ำกับใบเตยนะคะ )
    ปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีคะ นำมะพร้าวขูดไปนึ่งให้สุกแล้วนำมาเคล้ากับข้าวเม่า
นำฝามาปิดต่อให้ข้าวเม่าระอุ 10 นาทีคะ

เวลารับประทาน ตักข้าวเม่าโรยด้วยมะพร้าวขูดและน้ำตาลทราย

 และกล้วยไข่ อร่อยแบบไทยๆคะ

ฝอยทอง

วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553


ส่วนผสม

ไข่เป็ด 9 ฟอง
น้ำตาลทราย 5 ถ้วย
น้ำลอยดอกมะลิ 3 ถ้วย
น้ำค้างไข่ 3 ช้อนโต๊ะ


วิธีเตรียมน้ำค้างไข่

1. น้ำค้างไข่ หรือน้ำต้อย คือน้ำหล่อเลี้ยงไข่แดง ช่วยประคองไม่ให้ไข่แดงติดเปลือก จะเกิดขึ้นเมื่อไข่ถูกเก็บไว้สัก 1-2 วัน ิวิธีแยกเอาน้ำค้างไข่ ทำได้โดยวางไข่ให้ส่วนแหลมอยู่ด้านล่างเพื่อให้น้ำค้างไข่ที่เกิดขึ้นไหลลงมาอยู่ส่วนแหลม เวลาตอกไข่ให้ตอกส่วนป้านของไข่โดยรอบ ค่อย ๆ เทไข่แดงและไข่ขาวออกจากเปลือก น้ำค้างไข่จะค้างอยู่ในเปลือก ให้เทแยกใส่ชามไว้ต่างหาก


2. หากทำฝอยทองโดยใช้ไข่แดงล้วน ๆ ไข่แดงจะข้นมาก และไม่สามารถไหลออกจากกรวยที่มีรูเล็ก ๆ ได้ น้ำค้างไข่จะช่วยลดความเข้มข้นของไข่แดงและยังช่วยให้ไหลลื่นจากกรวยได้ง่ายด้วย


3. วิธีที่ง่ายกว่านี้ในการแยกน้ำค้างไข่ก็คือ ตอกไข่ทั้งหมดใส่ชามไว้ นำไข่ทั้งชามไปเทกรองด้วยกระชอน ส่วนที่เป็นน้ำค้างไข่จะใสและไหลผ่านกระชอนลงมาเอง

วิธีทำ


1. ต่อยไข่ใส่ชาม แยกไข่ขาวออกจากไข่แดง รีดเอาเยื่อออกให้หมด ผสมน้ำค้างไข่ตามอัตราส่วนไข่ 9 ฟองต่อน้ำค้างไข่ 3 ช้อนโต๊ะ


2. ใส่น้ำตาลและน้ำลอยดอกมะลิลงในกระทะตั้งไฟ คนให้น้ำตาลละลาย พอเดือดปรับไฟให้แรงเฉพาะตรงกลางกระทะ แล้วเริ่มโรยฝอยทองได้


3. ใส่ไข่แดงที่ผสมน้ำค้างไข่และคนเข้ากันดีแล้วลงในกรวยสำหรับโรยไข่ โรยลงในน้ำเชื่อมแบบวนรอบกระทะประมาณ 20 หรือ 30 รอบ แล้วแต่ว่าต้องการขนมแพเล็กหรือแพใหญ่ รอให้เดือด


4. ใช้ส้อมตักขนมขึ้นด้วยการตักจากริมกระทะด้านหนึ่งไปฝั่งตรงข้ามแล้วจึงยกขึ้น


5. ส่ายขนมในน้ำเชื่อมเพื่อให้เส้นฝอยทองเรียบแล้วพับทบให้สวยงามเรียงใส่จาน


เสร็จแล้ว
`





ขนมทองชมพูนุท


ส่วนผสม

ไข่แดง 10 ฟอง

กะทิ 2 ถ้วยตวง

แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง

แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง

น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง


วิธีทำ

1. ผสมแป้งข้าวเหนียว แป้งข้าวเจ้า ให้เข้ากัน นวดด้วยกะทิ

2. นำไข่แดง น้ำตาลทราย คนให้เข้ากันแล้วนำมารวมกับส่วนผสมข้อ 1

3. นำขึ้นตั้งไฟอ่อนๆ กวนจนปั้นได้

4. ใส่พิมพ์ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วเคาะออก นำไปอบควันเทียน